การเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์แบบปล่อย Free-range organic egg
การเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์แบบปล่อยไข่ไก่อินทรีย์แบบปล่อยอิสระ (Free-range organic egg) หรือ “Happy chick”
บทนำ: ทำไมต้องเลี้ยงไก่ไข่แบบปล่อย?
ในปัจจุบัน แนวโน้มของผู้บริโภคยุคใหม่ทั่วโลกให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพของสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคไข่ไก่ ผู้บริโภคเชื่อว่าการเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นอาหารควรเป็นไปอย่างมีมนุษยธรรมและเมตตา การเลี้ยงไก่ไข่ในกรงตับ (caged system) ซึ่งทำให้ไก่ต้องอาศัยในพื้นที่แคบ ๆ ไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติ เช่น การคลุกฝุ่น การคุ้ยเขี่ย หรือการไข่ในรัง ถือว่าไม่เป็นธรรมต่อสัตว์ จากรายงานของ CWIF (2006) พบว่าไก่ที่เลี้ยงในกรงตับมักมีปัญหาสุขภาพ เช่น กระดูกเปราะ เท้าและเล็บผิดปกติ ข้อต่อขาเสื่อม ทำให้ต้องใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทรมาน
จากการศึกษาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เศรษฐกิจ และสุขภาพของประชาชน สหภาพยุโรปได้ออกกฎหมายห้ามการเลี้ยงไก่ไข่ในกรงตับ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งส่งผลให้ห้างร้านต่าง ๆ หยุดซื้อไข่ไก่ที่มาจากกรงตับ ประเทศที่พัฒนาแล้วหลายแห่ง เช่น สหรัฐอเมริกา เริ่มมีการประกาศกฎหมายในลักษณะเดียวกัน รวมถึงมีการติดฉลากบอกแหล่งที่มาของไข่ เช่น ไข่จากการเลี้ยงแบบปล่อย (Free-range egg) หรือไข่อินทรีย์แบบปล่อย (Free-range organic egg)
นิปเปิ้ลให้น้ำไก่
การเลี้ยงไก่ไข่แบบปล่อย (Free-range system) หมายถึงการเลี้ยงไก่ในพื้นที่ที่เปิดกว้าง มีหญ้าปกคลุมและให้ไก่ได้แสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติ เช่น การคลุกฝุ่น การจิกกินพืชและแมลง ทำให้ไก่มีความสุขและอารมณ์ดี จึงถูกเรียกว่า “Happy chick” สหภาพยุโรปกำหนดให้การเลี้ยงไก่แบบปล่อยต้องมีพื้นที่อย่างน้อย 4 ตารางเมตรต่อไก่หนึ่งตัว และต้องมีพืชปกคลุมดิน พร้อมจัดคอนนอนและรังไข่ให้เพียงพอต่อจำนวนไก่
การเลี้ยงไก่แบบปล่อยนี้ยังสอดคล้องกับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ซึ่งช่วยให้ไก่มีสุขภาพดี มีภูมิต้านทานโรคตามธรรมชาติ ลดการใช้ยาปฏิชีวนะและสารเคมี ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้บริโภค ไข่ไก่อินทรีย์แบบปล่อยสามารถขายได้ในราคาที่สูงกว่าไข่จากระบบปกติหลายเท่า
สวัสดิภาพสัตว์ (Animal welfare)
หมายถึงคุณภาพชีวิตที่ดีของสัตว์ โดยคำนึงถึงทั้งสภาพร่างกายและจิตใจของสัตว์ หลักสวัสดิภาพสัตว์มีแนวทางปฏิบัติเพื่อให้สัตว์มีสุขภาพที่ดีและไม่เครียด ซึ่งเรียกว่า “เสรีภาพ 5 ประการ” (FAWC, 2005) ได้แก่:
- สัตว์ต้องปราศจากความหิวและกระหาย – จัดหาอาหารและน้ำสะอาดเพียงพอ
- สัตว์ต้องปราศจากความไม่สะดวกสบาย – จัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สะดวกสบาย
- สัตว์ต้องปราศจากความเจ็บปวดหรือโรคภัย – ป้องกันและรักษาหากเกิดการบาดเจ็บหรือป่วย
- สัตว์ต้องได้แสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติ – มีพื้นที่เพียงพอและอุปกรณ์ที่จำเป็น
- สัตว์ต้องปราศจากความกลัวและความกังวลใจ – จัดการเลี้ยงดูให้หลีกเลี่ยงความทุกข์ทางจิตใจ
หลักการดังกล่าวนำไปสู่การจัดการเลี้ยงสัตว์ที่ดี (Good animal husbandry practices) เช่น การจัดอาหารคุณภาพ สภาพแวดล้อมที่สะอาด และการปล่อยสัตว์ให้แสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีการปฏิบัติเพื่อส่งเสริมสุขภาพสัตว์ให้ดี เช่น อาหารดี อากาศดี อนามัยดี ออกกำลังดี และอารมณ์ดี
ประเด็นด้านความเสี่ยงจากโรค
การเลี้ยงไก่ไข่แบบปล่อยมีความเสี่ยงต่อโรคไข้หวัดนกจากนกป่า อย่างไรก็ตาม หากจัดการเลี้ยงดูให้ไก่แข็งแรงและมีภูมิต้านทานตามธรรมชาติ จะสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้ ขณะที่การเลี้ยงไก่แบบอุตสาหกรรมซึ่งมีการเลี้ยงอย่างหนาแน่นและใช้พันธุกรรมที่ให้ผลผลิตสูงมีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคมากกว่า เนื่องจากไก่มีภูมิคุ้มกันต่ำและเกิดการแพร่กระจายของโรคได้ง่าย
การเลี้ยงไก่ไข่แบบปล่อยนอกจากจะตอบสนองต่อความต้องการด้านสวัสดิภาพสัตว์ ยังช่วยให้ไก่มีสุขภาพแข็งแรงและลดการใช้สารเคมีในการเลี้ยง ซึ่งส่งผลดีต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้บริโภค
รายละเอียดนิปเปิ้ลให้น้ำไก่
ผลิตจากเนื้อพลาสติก POM มีความทนทานสูง ทนทานต่อกรด ด่าง รวมทั้งน้ำยาฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ติดตั้งง่าย ประกอบใช้งานเร็ว รับผลิต พร้อมระบุอัตราการไหลของน้ำตามต้องการ
- ผลิตจากเนื้อพลาสติก POM มีความทนทานสูง
- ระบบลูกปืน และสลักล่างเป็น Stainless แท้ ทั้งชิ้น
- ทนทานต่อกรด ด่าง รวมทั้งน้ำยาฆ่าเชื้อโรคต่างๆ
- ติดตั้งง่าย ประกอบใช้งานเร็ว
- มียาง O-Ring ป้องกันน้ำรั่วโดยไม่ต้องพันผ้าเทป
- รับผลิต พร้อมระบุอัตราการไหลของน้ำตามต้องการ
Posted in: Knowledge
Leave a Comment (0) →