ลดต้นทุนการผลิตบรรจุภัณฑ์ |
โรงงานพลาสติก ขวดพลาสติก บรรจุภัณฑ์ | K.V.J. Union Co., Ltd.

News & Updates

Archive for September, 2012

ลดต้นทุนการผลิตบรรจุภัณฑ์

แนวคิดนักออกแบบงานบรรจุภัณฑ์เพื่อลดต้นทุนการผลิต

กระปุกสีดำ

บรรจุภัณฑ์เป็นต้นทุนที่สำคัญรองจากวัตถุดิบในการผลิตสินค้า หากสามารถลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์ได้ จะช่วยให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง แนวคิดในการลดต้นทุนของวัสดุบรรจุภัณฑ์มีหลายแนวทาง ได้แก่:

  1. ลดคุณสมบัติทางกายภาพของวัสดุบรรจุภัณฑ์
    เช่น ลดความหนาหรือน้ำหนักของบรรจุภัณฑ์ โดยต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมและความคุ้มค่าในการประหยัด
  2. เลือกวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่ถูกกว่า
    การเปลี่ยนไปใช้วัสดุที่ราคาถูกกว่า เช่น การใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกแทนแก้ว
  3. เพิ่มประสิทธิภาพการใช้วัสดุ
    การใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์ให้คุ้มค่ามากขึ้น เช่น ปรับขนาดกล่องเพื่อให้ใช้วัสดุน้อยลง
  4. เปลี่ยนรูปแบบบรรจุภัณฑ์
    ดัดแปลงบรรจุภัณฑ์จากเดิมให้มีรูปแบบใหม่ที่ช่วยลดต้นทุน
  5. ลดส่วนประกอบที่ไม่จำเป็น
    ตัวอย่างเช่น เปลี่ยนจากฝาปิดแบบชิ้นเดียวที่มีต้นทุนสูง มาใช้ฝาพลาสติกแยกชิ้น
  6. เปลี่ยนรูปทรงบรรจุภัณฑ์
    การใช้บรรจุภัณฑ์ทรงเหลี่ยมแทนทรงกลม ช่วยให้บรรจุและขนส่งได้ง่ายขึ้นและประหยัดพื้นที่
  7. เพิ่มปริมาณสินค้าต่อกล่อง
    เพิ่มจำนวนสินค้าที่บรรจุในกล่อง เช่น จากเดิมบรรจุ 12 ชิ้น เพิ่มเป็น 18 หรือ 24 ชิ้น เพื่อลดค่าขนส่ง
  8. ลดจำนวนขนาดสินค้า
    การมีขนาดสินค้าหลากหลายทำให้สิ้นเปลืองในการบรรจุ การลดขนาดสินค้าให้เหลือเพียงไม่กี่ขนาดจะช่วยลดต้นทุน
  9. ลดขนาดพื้นที่บรรจุภัณฑ์
    บรรจุภัณฑ์ที่มีขนาดกะทัดรัดใช้กระดาษน้อยกว่า มีต้นทุนถูกกว่า และสะดวกต่อการบรรจุ
  10. ลดจำนวนสีที่ใช้ในการพิมพ์
    การออกแบบกราฟิกอย่างง่ายที่ใช้สีเพียง 1-2 สี สามารถลดต้นทุนการพิมพ์ได้มาก โดยที่ยังคงสร้างความดึงดูดต่อผู้บริโภค

การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อลดต้นทุนควรคำนึงถึงการตลาดด้วย ปัจจุบันการออกแบบบรรจุภัณฑ์ไม่เพียงแต่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งเท่านั้น แต่ยังเน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำหน้ากว่า เพื่อให้สินค้าโดดเด่นในตลาด

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

ตราสินค้า

ตราสินค้า (Brandname)

ตราสินค้า (Brand) หมายถึงชื่อ ข้อความ สัญลักษณ์ หรือรูปแบบต่างๆ ที่ใช้เพื่อระบุสินค้า หรือบริการของผู้ขาย โดยแสดงความแตกต่างจากคู่แข่งขัน ซึ่งองค์ประกอบสำคัญของตราสินค้าได้แก่:

  • ชื่อตรา (Brandname): ชื่อที่ออกเสียงได้ เช่น วัน ทู คอล หรือ เค เอฟ ซี
  • เครื่องหมายตราสินค้า (Brandmark): สัญลักษณ์ รูปแบบ หรือสีที่จดจำได้ เช่น โลโก้ของแบรนด์
  • เครื่องหมายการค้า (Trademark): เครื่องหมายที่จดทะเบียนแล้วเพื่อป้องกันสิทธิ์ตามกฎหมาย
  • ลิขสิทธิ์ (Copyright): สิทธิตามกฎหมายในสิ่งตีพิมพ์ต่างๆ
  • โลโก้ (Logo): สัญลักษณ์ที่ใช้แสดงถึงองค์กรหรือธุรกิจ

กระปุกบรรจุผง 1กิโลกรัม พร้อมช้อนตักผง 10g

หลักเกณฑ์การเลือกชื่อตราสินค้า

  • ตราสินค้าควรสั้น กระชับ จดจำง่าย ออกเสียงได้สะดวก
  • สามารถแปลเป็นภาษาต่างประเทศได้ง่ายและมีความหมายเหมาะสม
  • ควรสอดคล้องกับค่านิยมและวัฒนธรรมของกลุ่มเป้าหมาย
  • ต้องสามารถจดทะเบียนการค้าได้โดยไม่ซ้ำกับที่มีอยู่แล้ว

ขวดปั๊มดีไซน์กำหนดเอง Custom Design

ความสำคัญของตราสินค้า
ในสภาวะการแข่งขันสูง ตราสินค้ามีบทบาทสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ป้องกันการถูกเลียนแบบ และช่วยให้ผู้บริโภคสามารถจดจำและตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น โดยตราสินค้ายังทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์ของคุณภาพและความน่าเชื่อถือ

การสร้างตราสินค้าที่มีพลัง
การสร้างตราสินค้าต้องมีความแตกต่างจากคู่แข่งขัน และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภค โดยเฉพาะในสินค้าที่มีคู่แข่งขันหลากหลายบนชั้นวางสินค้า เมื่อสร้างตราสินค้าแล้ว การออกแบบฉลากและบรรจุภัณฑ์ก็มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างการตลาด

ป้ายฉลาก (Labeling)

  • ป้ายฉลากบอกชนิดของผลิตภัณฑ์และตรายี่ห้อ
  • ให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
  • ช่วยในการส่งเสริมการตลาด

ข้อพิจารณาในการออกแบบบรรจุภัณฑ์
การออกแบบบรรจุภัณฑ์ต้องคำนึงถึงลักษณะผลิตภัณฑ์ การตลาด การผลิต การจัดจำหน่าย การขนส่ง การเก็บรักษา และความสะดวกในการใช้งาน นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาต้นทุน กฎหมาย และผลกระทบต่อสังคม โดยเฉพาะเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม

  • ต้องคำนึงถึงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ เช่น ความชื้น ไขมัน หรือความเปราะบาง
  • ต้องรู้จักชนิดและคุณสมบัติของวัสดุบรรจุภัณฑ์
  • ต้องรู้จักระบบการขนส่งเพื่อป้องกันความเสียหาย
  • ต้องพิจารณากฎระเบียบ ข้อบังคับ และมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง
  • ต้องสามารถทดสอบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้มีคุณสมบัติที่เหมาะสมก่อนการผลิต

การออกแบบบรรจุภัณฑ์เป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความรู้ในหลากหลายด้าน เพื่อให้มั่นใจว่าบรรจุภัณฑ์มีประสิทธิภาพสูงสุดในการปกป้องสินค้า ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และสอดคล้องกับมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

ออกแบบบรรจุภัณฑ์

การออกแบบบรรจุภัณฑ์

การออกแบบบรรจุภัณฑ์สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก:

  1. การออกแบบโครงสร้าง: การกำหนดรูปลักษณะ วัสดุที่ใช้ กรรมวิธีการผลิต การบรรจุ และการขนส่งสินค้าและบรรจุภัณฑ์ ตั้งแต่จุดผลิตจนถึงมือผู้บริโภค
  2. การออกแบบกราฟิก: การสร้างลักษณะภายนอกของบรรจุภัณฑ์เพื่อสื่อสารและสร้างผลทางจิตวิทยาต่อผู้บริโภค โดยเน้นให้เกิดความกลมกลืนและสวยงามตามวัตถุประสงค์

ขวดครีม 300ml ฝาป๊อกแป๊ก

กระบวนการออกแบบโครงสร้างบรรจุภัณฑ์
กระบวนการออกแบบต้องผ่านการวางแผนและการตัดสินใจอย่างเป็นระบบ ประกอบด้วยการกำหนดนโยบายและเป้าหมาย การศึกษาและวิจัยเบื้องต้น พัฒนาต้นแบบ ทดลอง และปรับปรุงก่อนเข้าสู่การผลิตจริง

การออกแบบกราฟิกบนบรรจุภัณฑ์
บรรจุภัณฑ์เป็นตัวแทนในการส่งเสริมการขาย ณ จุดขาย ควรออกแบบให้เป็นสื่อโฆษณาในตัวเองโดยสามารถดึงดูดผู้บริโภคได้ ด้วยการใช้สี รูปภาพ สัญลักษณ์ และข้อความที่สอดคล้องกัน หลักการออกแบบกราฟิกง่ายๆ คือ “SAFE”:

  • S = Simple: เข้าใจง่าย สบายตา
  • A = Aesthetic: สวยงาม ชวนมอง
  • F = Function: ใช้งานได้สะดวก
  • E = Economic: ต้นทุนคุ้มค่า

หน้าที่ของกราฟิกบนบรรจุภัณฑ์

  • สร้างทัศนคติที่ดีต่อผลิตภัณฑ์
  • ชี้แจงชนิดและประเภทของผลิตภัณฑ์
  • แสดงเอกลักษณ์และคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์
  • ส่งเสริมการตลาดและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ

ขวดฝาฟลิบแบบตอก

การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อส่งเสริมการตลาด
การออกแบบบรรจุภัณฑ์ช่วยส่งเสริมการขายได้หลากหลายวิธี เช่น การออกแบบที่จดจำง่าย เจาะตลาดใหม่ การใช้กับผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือการส่งเสริมการขาย การออกแบบต้องคำนึงถึงตราสินค้าและความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย

การเปลี่ยนขนาดหรือรูปทรงของบรรจุภัณฑ์
การเปลี่ยนแปลงรูปแบบหรือขนาดของบรรจุภัณฑ์จำเป็นต้องทำเมื่อสินค้าผ่านช่วงหนึ่งของวัฏจักรชีวิต เช่น มีนวัตกรรมใหม่หรือการเปลี่ยนวัสดุ เพื่อตอบโจทย์ตลาดและรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด

การออกแบบบรรจุภัณฑ์เป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมการตลาด สร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภค และเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งและจัดเก็บ การออกแบบอย่างมีประสิทธิภาพจึงต้องครอบคลุมทั้งด้านโครงสร้างและกราฟิก เพื่อสร้างความสำเร็จทางธุรกิจอย่างยั่งยืน

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

วางแผนออกแบบบรรจุภัณฑ์

ขั้นตอนการวางแผนออกแบบบรรจุภัณฑ์

การวางแผนออกแบบบรรจุภัณฑ์เริ่มต้นจากการกำหนดจุดประสงค์และข้อจำกัด เพื่อให้บรรจุภัณฑ์ที่สร้างขึ้นตรงตามความต้องการของผลิตภัณฑ์และตลาด โดยขั้นตอนการวางแผนประกอบด้วยองค์ประกอบดังต่อไปนี้:

ขวดบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง

ขั้นตอนที่ 1: การวางแผน

1.1 กำหนดกรอบเวลา (Timeline) – วางแผนระยะเวลาในการพัฒนาแต่ละขั้นตอนอย่างชัดเจน
1.2 ระบุผลลัพธ์ที่คาดหวัง – กำหนดเป้าหมายที่ต้องการในแต่ละขั้นตอน เช่น การส่งมอบต้นแบบหรือการทดสอบ
1.3 รายละเอียดเกี่ยวกับตราสินค้า (Branding) – ระบุข้อมูลสำคัญของตราสินค้าที่จะใช้
1.4 กำหนดผู้รับผิดชอบ – ระบุทีมงานหรือผู้รับผิดชอบในแต่ละขั้นตอนเพื่อความชัดเจนในการดำเนินงาน

ขั้นตอนที่ 2: การรวบรวมข้อมูล

2.1 การตลาด (Marketing Data) – รวบรวมข้อมูลตลาดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และคู่แข่ง
2.2 ข้อมูลจากจุดขาย (Point-of-Sale Data) – ศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคที่จุดขาย
2.3 วิเคราะห์ SWOT (Strength, Weakness, Opportunity, Threat) – ประเมินจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์
2.4 พฤติกรรมผู้บริโภค (Consumer Behavior) – สำรวจและทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย
2.5 เทคโนโลยีใหม่ – ศึกษาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ในด้านวัสดุ ระบบบรรจุภัณฑ์ และเครื่องจักร

ขั้นตอนที่ 3: การออกแบบร่าง

3.1 พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ (Idea Development) – ระดมความคิดและสร้างแนวทางการออกแบบที่เกี่ยวข้อง
3.2 ร่างต้นแบบ (Conceptual Design) – สร้างร่างต้นแบบ 3-5 แบบเพื่อใช้ในการตัดสินใจ
3.3 การทำต้นแบบ (Prototype Development) – คัดเลือกต้นแบบที่เหมาะสม 2-3 แบบเพื่อนำมาทดสอบ

ขั้นตอนที่ 4: การประชุมวิเคราะห์และปรับปรุงต้นแบบ

4.1 วิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางเทคนิค – ตรวจสอบว่าต้นแบบสามารถผลิตได้จริงและตรงตามข้อกำหนด
4.2 วิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภค – ประเมินว่าต้นแบบตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายหรือไม่
4.3 เลือกต้นแบบที่ดีที่สุด – คัดเลือกต้นแบบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการพัฒนาเพิ่มเติม

ขั้นตอนที่ 5: การทำแบบจริง (Final Design)

5.1 เลือกวัสดุ (Material Selection) – ตัดสินใจเลือกวัสดุที่เหมาะสมสำหรับการผลิต
5.2 ออกแบบกราฟิก (Graphic Design) – สร้างแบบกราฟิกพร้อมโลโก้และสัญลักษณ์การค้า
5.3 สร้างแบบจริง (Final Mockup) – ทำแบบจริงเพื่อนำไปทดสอบและปรับปรุงก่อนผลิต

ขั้นตอนที่ 6: การบริหารการออกแบบ (Design Management)

เริ่มจากการติดต่อผู้ผลิตวัสดุบรรจุภัณฑ์ ควบคุมกระบวนการผลิตให้เป็นไปตามแบบที่ออกแบบไว้ จัดทำเอกสารและรายละเอียดการสั่งซื้อ (Specification) เพื่อให้กระบวนการผลิตเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด สุดท้ายติดตามและประเมินผลว่าบรรจุภัณฑ์สามารถตอบสนองต่อเป้าหมายและวัตถุประสงค์ขององค์กรได้อย่างเต็มที่

ขั้นตอนการวางแผนและการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เป็นระบบและละเอียดถี่ถ้วน ไม่เพียงแต่ช่วยให้ได้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสินค้า แต่ยังช่วยสร้างความโดดเด่นให้กับผลิตภัณฑ์ในตลาด และตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

Siphon Pump / Drum Pump ปั๊มสูบฉีด

ปั๊มไซฟอน ปั๊มดรัม ปั๊มสูบฉีด สำหรับการถ่ายเทของเหลว

ปั๊มไซฟอนปั๊มดรัม ถูกออกแบบมาเพื่อถ่ายเทของเหลวหลายประเภทจากถังขนาดใหญ่ไปยังภาชนะขนาดเล็กได้อย่างง่ายดาย ทำจากโพลีเอทิลีนที่ทนทาน ไม่เป็นสนิม และเหมาะสำหรับใช้งานกับน้ำ น้ำมันเบา และของเหลวที่ไม่ก้าวร้าวที่สามารถใช้งานร่วมกับโพลีเอทิลีนได้ ปั๊มนี้เหมาะสำหรับการถ่ายเทของเหลวจากภาชนะที่อยู่สูงไปยังภาชนะที่อยู่ต่ำกว่า

คุณสมบัติสำคัญ ปั๊มไซฟอน ปั๊มดรัม ปั๊มสูบฉีด:

  • ทำจากโพลีเอทิลีน ป้องกันการเกิดสนิม
  • เหมาะสำหรับการถ่ายเทน้ำ น้ำมันเบา และของเหลวที่ไม่ก้าวร้าว
  • ออกแบบมาเพื่อการถ่ายเทของเหลวจากถังขนาดใหญ่ไปยังภาชนะขนาดเล็กได้อย่างง่ายดาย

Siphon-Pump

วิธีการใช้งานปั๊มสูบฉีด:

  1. ใส่ท่อดูดเข้าไปในช่องเปิดของภาชนะจ่ายของเหลว
  2. วางทางออกของท่อส่งลงในช่องเปิดของภาชนะรับของเหลว
  3. จับที่จับและกดลงซ้ำๆ จนกว่าของเหลวจะเริ่มไหล ของเหลวจะไหลผ่านท่อส่งต่อไปตราบใดที่ภาชนะจ่ายของเหลวอยู่ในระดับที่สูงกว่าภาชนะรับ
  4. หากการไหลของไซฟอนหยุดเนื่องจากระดับของเหลวในภาชนะจ่ายต่ำ ให้กดที่จับซ้ำๆ หรือยกภาชนะจ่ายให้อยู่สูงกว่าภาชนะรับเพื่อเริ่มการไหลอีกครั้ง
  5. เพื่อหยุดการไหลในเวลาใดๆ ให้คลายฝาปิดที่ด้านบนของที่จับออก เพื่อเริ่มการไหลใหม่ ให้ปิดฝาปิดและทำซ้ำขั้นตอนที่ 3

For more information please visit https://www.kvjunion.com/product-category/ปั๊มสูบฉีด-siphon-pumps/

 

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Siphon Pump / Drum Pump ปั๊มสูบฉีด

บริษัท เค.วี.เจ. ยูเนี่ยน จำกัด
70 ถนนพระรามที่ 3
แขวงบางคอแหลม
เขตบางคอแหลม
กรุงเทพฯ 10120

T: 02 289 1996
F: 02 292 1223
E: [email protected]
LINE: @tul2062b

Add Line

 

Posted in: ผลิตภัณฑ์และบริการ

Leave a Comment (0) →