Posted by KVJ on July 31, 2013 แนวโน้มบรรจุภัณฑ์ ปี 2556 Packaging Trend 2013
เมื่อกล่าวถึงแนวโน้มบรรจุภัณฑ์ในปี 2556, Scott Steele ประธานบริษัท Plastics Technology ยังคงเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปกป้องสินค้าอย่างคุ้มค่า แม้ว่าปัจจัยด้านภาพลักษณ์ของแบรนด์ รูปทรง และฟังก์ชั่นการใช้งานจะมีส่วนช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับผลิตภัณฑ์ แต่ต้นทุนยังคงเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่อุตสาหกรรมให้ความสำคัญ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ดังนี้:
1. การรีไซเคิล
ถึงแม้แนวคิดเรื่อง การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability) จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ยังคงเป็นประเด็นสำคัญในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ สมาคม American Chemistry Council และสมาคมผู้ประกอบการรีไซเคิลพลาสติก (APR) ได้เผยแพร่ข้อมูลในปี 2555 ว่ามีการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์พลาสติกเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมเชื่อว่าสามารถผลักดันให้การรีไซเคิลเพิ่มขึ้นได้หากให้ความรู้แก่ผู้บริโภคและเน้นย้ำความสำคัญของบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รายงานจาก The Freedonia Group คาดการณ์ว่าสหรัฐอเมริกาจะต้องเพิ่มปริมาณการรีไซเคิลพลาสติก 6.5% ต่อปี เพื่อบรรลุเป้าหมายในการรีไซเคิลพลาสติก 3,500 ล้านปอนด์ภายในปี 2559 การบรรลุเป้าหมายนี้จะต้องใช้ทั้งการสนับสนุนจากภาครัฐ การพัฒนากระบวนการรีไซเคิล และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการเปลี่ยนพลาสติกใช้แล้วให้เป็นเม็ดเรซินคุณภาพสูง
2. การใช้พลาสติกชีวภาพที่เพิ่มขึ้น
แม้ว่าพลาสติกชีวภาพจะครองส่วนแบ่งเพียง 1% ของตลาดพลาสติกทั้งหมด แต่นักวิเคราะห์จาก NanoMarkets คาดการณ์ว่าตลาดนี้จะเติบโตถึง 7% ภายในปี 2563 อย่างไรก็ตาม เพื่อให้พลาสติกชีวภาพสามารถแข่งขันได้ในตลาด จำเป็นต้องลดต้นทุนการผลิต ปัจจุบัน พลาสติกชีวภาพมีราคาสูงกว่าพลาสติกปิโตรเลียม 2-3 เท่า การลดต้นทุนจะเกิดขึ้นได้หากมีการผลิตในปริมาณที่มากขึ้น และการใช้วัตถุดิบที่ถูกลง เช่น แป้งมันสำปะหลังในการผลิต PLA (Polylactic Acid) นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มในการนำ PET ชีวภาพ (Bio-PET) มาใช้แทนพลาสติกที่มาจากฟอสซิล และการใช้โฟม PLA ในบรรจุภัณฑ์อาหารจะเพิ่มขึ้นด้วย
3. การขยายตลาดเป็นกุญแจสำคัญ
บริษัท PCI Films Consulting ได้ระบุ 13 ตลาดที่น่าสนใจสำหรับบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน (Flexible Packaging) ได้แก่ โปแลนด์ รัสเซีย ตุรกี เม็กซิโก บราซิล อินเดีย อินโดนีเซีย ไทย เวียดนาม ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไนจีเรีย และแอฟริกาใต้ ตลาดเหล่านี้มีมูลค่ารวมกันกว่า 14,000 ล้านดอลลาร์ และเติบโตเกือบ 70% ตั้งแต่ปี 2549 คิดเป็น 20% ของความต้องการในตลาดโลก การเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นและการขยายตัวของซุปเปอร์มาร์เก็ต
4. การเติบโตของบรรจุภัณฑ์แบบ Pouches
บรรจุภัณฑ์ Pouches หรือถุงทนความร้อน กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น จากรายงานของบริษัท Mintel International ในปี 2553 มีผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 1,210 รายการที่ใช้บรรจุภัณฑ์แบบ Pouches ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 885 รายการในปี 2550 นอกจากนี้ความต้องการบรรจุภัณฑ์ Pouches ในสหรัฐอเมริกายังคงเพิ่มขึ้น 5.1% ต่อปี และคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 8,800 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2559 โดยบรรจุภัณฑ์แบบ Stand-up Pouch (ชนิดตั้งได้) คาดว่าจะเติบโต 7.2% ต่อปี โดยมีอุตสาหกรรมอาหารเป็นตลาดหลัก เนื่องจากบรรจุภัณฑ์แบบ Pouches มีข้อได้เปรียบในเรื่องน้ำหนักเบา ประหยัดค่าขนส่ง และลดปริมาณการใช้วัสดุเมื่อเทียบกับบรรจุภัณฑ์แบบแข็ง
แนวโน้มบรรจุภัณฑ์ในปี 2556 ชี้ให้เห็นถึงการพัฒนาและปรับตัวในหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องการรีไซเคิล การใช้พลาสติกชีวภาพ และการขยายตลาดใหม่ ๆ บรรจุภัณฑ์แบบ Pouches ยังคงเป็นที่ต้องการสูงเนื่องจากข้อดีด้านความสะดวกและต้นทุนที่ต่ำ การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและการปรับลดต้นทุนจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ต่อไปในอนาคต