โรงงานพลาสติก ขวดพลาสติก บรรจุภัณฑ์ | K.V.J. Union Co., Ltd.

News & Updates

Posts Tagged บรรจุภัณฑ์

ประเภทของบรรจุภัณฑ์

การจำแนกประเภทบรรจุภัณฑ์สามารถแบ่งออกได้หลายวิธี ดังนี้:

กระปุกครีมสีชมพู-100-กรัม-โฟม-และ-แผ่นรอง

การแบ่งประเภทบรรจุภัณฑ์ตามวิธีการบรรจุและขนถ่าย

บรรจุภัณฑ์สามารถจัดแบ่งได้หลากหลายรูปแบบตามวิธีการบรรจุและขนถ่ายสินค้า เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการใช้งานในแต่ละลักษณะ ดังนี้:

  1. บรรจุภัณฑ์เฉพาะหน่วย (Individual Package)
    เป็นบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสโดยตรงกับผลิตภัณฑ์ เช่น ขวดน้ำ กล่องใส่ครีม หรือบรรจุภัณฑ์สินค้าชิ้นเดียว โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการเพิ่มมูลค่าทางการค้า อำนวยความสะดวกต่อการใช้งาน และป้องกันผลิตภัณฑ์จากการปนเปื้อนและความเสียหาย ถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภคตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นผลิตภัณฑ์
  2. บรรจุภัณฑ์ชั้นใน (Inner Package)
    บรรจุภัณฑ์ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมบรรจุภัณฑ์เฉพาะหน่วยให้เป็นชุดเดียวกัน เช่น การบรรจุเครื่องดื่ม 12 ขวดในกล่องกระดาษ โดยมีหน้าที่หลักในการป้องกันสินค้าแต่ละหน่วยจากความชื้น แสงแดด และแรงกระแทกในระหว่างการขนส่ง เป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการจัดเก็บและขนย้ายสินค้าในปริมาณมากขึ้น
  3. บรรจุภัณฑ์ชั้นนอกสุด (Outer Package)
    เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ใช้สำหรับการขนส่งสินค้าในปริมาณมาก เช่น ลังไม้ หรือกล่องกระดาษลูกฟูกขนาดใหญ่ มีหน้าที่สำคัญในการปกป้องสินค้าในระหว่างการขนส่งจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการกระแทกหรือการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม

การแบ่งประเภทบรรจุภัณฑ์ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน

  1. บรรจุภัณฑ์เพื่อการขายปลีก (Consumer Package)
    เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ผู้บริโภคซื้อเพื่อนำไปใช้งาน อาจเป็นบรรจุภัณฑ์ชั้นแรกหรือชั้นที่สองที่มีการออกแบบเพื่อความสะดวกในการจับจ่าย เช่น กล่องบรรจุสินค้า เครื่องดื่ม หรือบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยให้ใช้งานง่าย
  2. บรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่ง (Transportation Package)
    ใช้ในการรวบรวมบรรจุภัณฑ์ขายปลีกเข้าด้วยกันในหน่วยใหญ่ เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยในการขนส่ง เช่น กล่องกระดาษลูกฟูกที่บรรจุสินค้าเป็นชุด ช่วยให้สามารถจัดการขนส่งได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ

การแบ่งประเภทบรรจุภัณฑ์ตามความคงรูป

  1. บรรจุภัณฑ์รูปทรงแข็งตัว (Rigid Forms)
    ทำจากวัสดุที่มีความแข็งแรง เช่น แก้ว เซรามิก ขวดพลาสติก และโลหะ บรรจุภัณฑ์ประเภทนี้มีความทนทานสูง สามารถป้องกันผลิตภัณฑ์จากสภาพแวดล้อมภายนอกได้อย่างดี เช่น แรงกระแทกและการรั่วซึม
  2. บรรจุภัณฑ์รูปทรงกึ่งแข็งตัว (Semirigid Forms)
    ทำจากวัสดุเช่น พลาสติกอ่อน กระดาษแข็ง หรืออลูมิเนียมบาง มีความคงทนในระดับปานกลางและมักมีราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับบรรจุภัณฑ์อาหารและสินค้าที่ต้องการความยืดหยุ่นบางส่วน
  3. บรรจุภัณฑ์รูปทรงยืดหยุ่น (Flexible Forms)
    ทำจากวัสดุที่อ่อนตัว เช่น แผ่นพลาสติกหรือฟิล์ม ได้รับความนิยมสูงเนื่องจากมีน้ำหนักเบา ราคาถูก และสามารถปรับแต่งได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ถุงฟิล์มห่ออาหาร หรือถุงพลาสติกที่ใช้บรรจุของแห้ง

การแบ่งประเภทบรรจุภัณฑ์ตามวัสดุที่ใช้

บรรจุภัณฑ์สามารถจัดประเภทได้ตามวัสดุที่ใช้ เช่น พลาสติก แก้ว โลหะ หรือกระดาษ ซึ่งแต่ละวัสดุมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป โดยการเลือกวัสดุขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ผลิตและความต้องการตลาด เช่น การป้องกันผลิตภัณฑ์ การจัดเก็บ การขนส่ง และการเพิ่มมูลค่าทางการตลาดของสินค้า

การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมและการออกแบบที่ดีจะช่วยให้สินค้าของคุณตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ทั้งในด้านการปกป้องสินค้า การใช้งาน และการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในตลาด.

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

ลดต้นทุนการผลิตบรรจุภัณฑ์

แนวคิดนักออกแบบงานบรรจุภัณฑ์เพื่อลดต้นทุนการผลิต

กระปุกสีดำ

บรรจุภัณฑ์เป็นต้นทุนที่สำคัญรองจากวัตถุดิบในการผลิตสินค้า หากสามารถลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์ได้ จะช่วยให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง แนวคิดในการลดต้นทุนของวัสดุบรรจุภัณฑ์มีหลายแนวทาง ได้แก่:

  1. ลดคุณสมบัติทางกายภาพของวัสดุบรรจุภัณฑ์
    เช่น ลดความหนาหรือน้ำหนักของบรรจุภัณฑ์ โดยต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมและความคุ้มค่าในการประหยัด
  2. เลือกวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่ถูกกว่า
    การเปลี่ยนไปใช้วัสดุที่ราคาถูกกว่า เช่น การใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกแทนแก้ว
  3. เพิ่มประสิทธิภาพการใช้วัสดุ
    การใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์ให้คุ้มค่ามากขึ้น เช่น ปรับขนาดกล่องเพื่อให้ใช้วัสดุน้อยลง
  4. เปลี่ยนรูปแบบบรรจุภัณฑ์
    ดัดแปลงบรรจุภัณฑ์จากเดิมให้มีรูปแบบใหม่ที่ช่วยลดต้นทุน
  5. ลดส่วนประกอบที่ไม่จำเป็น
    ตัวอย่างเช่น เปลี่ยนจากฝาปิดแบบชิ้นเดียวที่มีต้นทุนสูง มาใช้ฝาพลาสติกแยกชิ้น
  6. เปลี่ยนรูปทรงบรรจุภัณฑ์
    การใช้บรรจุภัณฑ์ทรงเหลี่ยมแทนทรงกลม ช่วยให้บรรจุและขนส่งได้ง่ายขึ้นและประหยัดพื้นที่
  7. เพิ่มปริมาณสินค้าต่อกล่อง
    เพิ่มจำนวนสินค้าที่บรรจุในกล่อง เช่น จากเดิมบรรจุ 12 ชิ้น เพิ่มเป็น 18 หรือ 24 ชิ้น เพื่อลดค่าขนส่ง
  8. ลดจำนวนขนาดสินค้า
    การมีขนาดสินค้าหลากหลายทำให้สิ้นเปลืองในการบรรจุ การลดขนาดสินค้าให้เหลือเพียงไม่กี่ขนาดจะช่วยลดต้นทุน
  9. ลดขนาดพื้นที่บรรจุภัณฑ์
    บรรจุภัณฑ์ที่มีขนาดกะทัดรัดใช้กระดาษน้อยกว่า มีต้นทุนถูกกว่า และสะดวกต่อการบรรจุ
  10. ลดจำนวนสีที่ใช้ในการพิมพ์
    การออกแบบกราฟิกอย่างง่ายที่ใช้สีเพียง 1-2 สี สามารถลดต้นทุนการพิมพ์ได้มาก โดยที่ยังคงสร้างความดึงดูดต่อผู้บริโภค

การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อลดต้นทุนควรคำนึงถึงการตลาดด้วย ปัจจุบันการออกแบบบรรจุภัณฑ์ไม่เพียงแต่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งเท่านั้น แต่ยังเน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำหน้ากว่า เพื่อให้สินค้าโดดเด่นในตลาด

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

ออกแบบบรรจุภัณฑ์

การออกแบบบรรจุภัณฑ์

การออกแบบบรรจุภัณฑ์สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก:

  1. การออกแบบโครงสร้าง: การกำหนดรูปลักษณะ วัสดุที่ใช้ กรรมวิธีการผลิต การบรรจุ และการขนส่งสินค้าและบรรจุภัณฑ์ ตั้งแต่จุดผลิตจนถึงมือผู้บริโภค
  2. การออกแบบกราฟิก: การสร้างลักษณะภายนอกของบรรจุภัณฑ์เพื่อสื่อสารและสร้างผลทางจิตวิทยาต่อผู้บริโภค โดยเน้นให้เกิดความกลมกลืนและสวยงามตามวัตถุประสงค์

ขวดครีม 300ml ฝาป๊อกแป๊ก

กระบวนการออกแบบโครงสร้างบรรจุภัณฑ์
กระบวนการออกแบบต้องผ่านการวางแผนและการตัดสินใจอย่างเป็นระบบ ประกอบด้วยการกำหนดนโยบายและเป้าหมาย การศึกษาและวิจัยเบื้องต้น พัฒนาต้นแบบ ทดลอง และปรับปรุงก่อนเข้าสู่การผลิตจริง

การออกแบบกราฟิกบนบรรจุภัณฑ์
บรรจุภัณฑ์เป็นตัวแทนในการส่งเสริมการขาย ณ จุดขาย ควรออกแบบให้เป็นสื่อโฆษณาในตัวเองโดยสามารถดึงดูดผู้บริโภคได้ ด้วยการใช้สี รูปภาพ สัญลักษณ์ และข้อความที่สอดคล้องกัน หลักการออกแบบกราฟิกง่ายๆ คือ “SAFE”:

  • S = Simple: เข้าใจง่าย สบายตา
  • A = Aesthetic: สวยงาม ชวนมอง
  • F = Function: ใช้งานได้สะดวก
  • E = Economic: ต้นทุนคุ้มค่า

หน้าที่ของกราฟิกบนบรรจุภัณฑ์

  • สร้างทัศนคติที่ดีต่อผลิตภัณฑ์
  • ชี้แจงชนิดและประเภทของผลิตภัณฑ์
  • แสดงเอกลักษณ์และคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์
  • ส่งเสริมการตลาดและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ

ขวดฝาฟลิบแบบตอก

การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อส่งเสริมการตลาด
การออกแบบบรรจุภัณฑ์ช่วยส่งเสริมการขายได้หลากหลายวิธี เช่น การออกแบบที่จดจำง่าย เจาะตลาดใหม่ การใช้กับผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือการส่งเสริมการขาย การออกแบบต้องคำนึงถึงตราสินค้าและความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย

การเปลี่ยนขนาดหรือรูปทรงของบรรจุภัณฑ์
การเปลี่ยนแปลงรูปแบบหรือขนาดของบรรจุภัณฑ์จำเป็นต้องทำเมื่อสินค้าผ่านช่วงหนึ่งของวัฏจักรชีวิต เช่น มีนวัตกรรมใหม่หรือการเปลี่ยนวัสดุ เพื่อตอบโจทย์ตลาดและรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด

การออกแบบบรรจุภัณฑ์เป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมการตลาด สร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภค และเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งและจัดเก็บ การออกแบบอย่างมีประสิทธิภาพจึงต้องครอบคลุมทั้งด้านโครงสร้างและกราฟิก เพื่อสร้างความสำเร็จทางธุรกิจอย่างยั่งยืน

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →