โรงงานพลาสติก ขวดพลาสติก บรรจุภัณฑ์ | K.V.J. Union Co., Ltd.

News & Updates

Posts Tagged พลาสติก PP

วิธีทำผงโปรตีนออร์แกนิก (Homemade Organic Protein Powder Recipe)

ในโลกที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบในปัจจุบัน ผงโปรตีนได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพและไลฟ์สไตล์ที่ดีขึ้นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ควบคุมน้ำหนัก หรือเสริมสุขภาพ ผงโปรตีนถือเป็นตัวช่วยที่สะดวกและง่ายต่อการได้รับสารอาหารที่จำเป็น ช่วยสนับสนุนการสร้างกล้ามเนื้อ การฟื้นฟูร่างกายหลังออกกำลังกาย และแม้กระทั่งเป็นมื้ออาหารทดแทนสำหรับคนที่มีเวลาน้อย

สูตรนี้ช่วยให้คุณสามารถทำผงโปรตีนออร์แกนิกที่สะอาดและมีประโยชน์ได้เองที่บ้าน โดยไม่มีสารเติมแต่งหรือส่วนผสมสังเคราะห์ และยังสามารถนำไปใช้ในสมูทตี้ เชค หรือขนมอบได้ตามความชอบ มาลองทำกันเลย!

สูตรผงโปรตีนออร์แกนิก-Organic-Protein-Powder-Recipe

สูตรผงโปรตีนออร์แกนิกโฮมเมด

ปริมาณ: ~3 ถ้วย
เวลาเตรียม: 10 นาที

ส่วนผสมผงโปรตีนออร์แกนิก:

  1. แหล่งโปรตีนหลัก (ให้โปรตีน):
    • ข้าวโอ๊ตออร์แกนิก 1 ถ้วย (100 กรัม) (หรือแป้งข้าวโอ๊ตออร์แกนิก)
      สารอาหาร: คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน โปรตีน (4 กรัมต่อ 100 กรัม) ใยอาหาร เหล็ก แมกนีเซียม และวิตามินบี
      ประโยชน์: ให้พลังงานยาวนาน สนับสนุนสุขภาพหัวใจ และช่วยย่อยอาหาร
    • อัลมอนด์ออร์แกนิก 1 ถ้วย (100 กรัม) หรือแป้งอัลมอนด์ออร์แกนิก
      สารอาหาร: ไขมันดี โปรตีน (21 กรัมต่อ 100 กรัม) วิตามินอี แมกนีเซียม และแคลเซียม
      ประโยชน์: ส่งเสริมสุขภาพหัวใจ สนับสนุนการทำงานของสมอง และเสริมสร้างกระดูก
    • ถั่วเลนทิลออร์แกนิก 1 ถ้วย (100 กรัม) ถั่วชิกพี หรือถั่วแยกเปลือก (อบเพื่อเพิ่มรสชาติ)
      สารอาหาร: โปรตีนสูง (24 กรัมต่อ 100 กรัม) ใยอาหาร เหล็ก โฟเลต และโพแทสเซียม
      ประโยชน์: สนับสนุนการซ่อมแซมกล้ามเนื้อ ปรับปรุงการย่อยอาหาร และเพิ่มพลังงาน
  2. ส่วนผสมปรุงรส (ตามความชอบ):
    • ผงโกโก้ออร์แกนิกไม่หวาน 2 ช้อนโต๊ะ
      สารอาหาร: สารต้านอนุมูลอิสระ (ฟลาโวนอยด์) เหล็ก และแมกนีเซียม
      ประโยชน์: ช่วยให้อารมณ์ดี เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และส่งเสริมสุขภาพสมอง
    • อบเชยออร์แกนิก 1 ช้อนชา
      สารอาหาร: สารต้านอนุมูลอิสระ แมงกานีส และแคลเซียม
      ประโยชน์: ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด ลดการอักเสบ และเพิ่มภูมิคุ้มกัน
    • ผงวานิลาออร์แกนิก 1 ช้อนชา หรือฝักวานิลาออร์แกนิก 1 ฝัก (ขูดเนื้อออก)
      สารอาหาร: สารต้านอนุมูลอิสระ
      ประโยชน์: เพิ่มกลิ่นหอมและช่วยให้ผ่อนคลาย
  3. สารให้ความหวาน (ตามความชอบ):
    • น้ำตาลมะพร้าวออร์แกนิก 2-3 ช้อนโต๊ะ สตีเวียออร์แกนิก หรือสารสกัดจากหล่อฮังก้วย
      สารอาหาร: แร่ธาตุ (น้ำตาลมะพร้าวมีโพแทสเซียมและแมกนีเซียม)
      ประโยชน์: ให้ความหวานตามธรรมชาติ โดยไม่ทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูง
  4. ตัวเสริมคุณค่า (เพิ่มโภชนาการ):
    • เมล็ดเจีย เมล็ดแฟลกซ์ หรือเมล็ดกัญชาออร์แกนิก 2 ช้อนโต๊ะ
      สารอาหาร: กรดไขมันโอเมก้า-3 โปรตีน (17 กรัมต่อ 100 กรัมสำหรับเมล็ดกัญชา) ใยอาหาร และแคลเซียม
      ประโยชน์: ส่งเสริมสุขภาพหัวใจ ลดการอักเสบ และช่วยในการย่อยอาหาร
    • ผงนมออร์แกนิก 2 ช้อนโต๊ะ หรือผงนมมะพร้าวออร์แกนิก
      สารอาหาร: แคลเซียม โปรตีน และไขมันดี
      ประโยชน์: เสริมสร้างกระดูกและเพิ่มความเนียนนุ่มในเนื้อสัมผัส
    • สาหร่ายเกลียวทองออร์แกนิก หรือผงมะรุมออร์แกนิก 1 ช้อนโต๊ะ
      สารอาหาร: โปรตีนสูง (57 กรัมต่อ 100 กรัมสำหรับสาหร่ายเกลียวทอง) วิตามินบี เหล็ก และสารต้านอนุมูลอิสระ
      ประโยชน์: ช่วยล้างพิษ เพิ่มพลังงาน และสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน

วิธีทำผงโปรตีนออร์แกนิก:

  1. เตรียมส่วนผสม: คั่วถั่วอัลมอนด์และถั่วเลนทิลในกระทะแห้งด้วยไฟอ่อน เพื่อเพิ่มรสชาติ (เลือกทำตามความชอบ) แล้วปล่อยให้เย็นสนิท บดข้าวโอ๊ต ถั่ว และถั่วเลนทิลด้วยเครื่องปั่นหรือเครื่องบดความเร็วสูงจนเป็นผงละเอียด
  2. ผสม: ผสมส่วนผสมทั้งหมดในชามขนาดใหญ่ ใส่สารปรุงรส สารให้ความหวาน หรือส่วนเสริมโภชนาการตามที่ต้องการ
  3. ร่อน: ใช้กระชอนร่อนเพื่อกำจัดส่วนที่หยาบ หากมีเศษหยาบให้บดซ้ำ
  4. เก็บรักษา: เก็บไว้ในภาชนะที่ปิดสนิทในที่แห้งและเย็น สามารถเก็บได้นานถึง 1 เดือน

ข้อมูลในบทความนี้จัดทำเพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่สามารถแทนคำแนะนำทางการแพทย์ได้ การใช้สูตรนี้เป็นความรับผิดชอบของคุณเอง หากคุณมีอาการแพ้หรือกังวลเกี่ยวกับส่วนผสมใด ๆ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนผสมนั้นเหมาะสมกับคุณหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนใช้งาน

กระปุก HDPE สำหรับเก็บผงโปรตีน

เพื่อรักษาคุณภาพและความสดใหม่ของผงโปรตีนที่คุณทำเอง การเลือกภาชนะที่เหมาะสมสำหรับการจัดเก็บเป็นสิ่งสำคัญ ขวด HDPE (High-Density Polyethylene) เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเก็บรักษาผงโปรตีนของคุณด้วยเหตุผลดังนี้:

กระปุกบรรจุผง-1kg-2000cc

  1. ป้องกันความชื้นและอากาศ: ขวด HDPE มีคุณสมบัติป้องกันอากาศและความชื้น ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้ผงโปรตีนจับตัวเป็นก้อนหรือสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการ
  2. ปลอดภัยต่อสุขภาพ: HDPE เป็นพลาสติกชนิดปลอดภัยที่ไม่มีสารเคมีอันตรายปนเปื้อนในอาหาร
  3. น้ำหนักเบาและทนทาน: ขวด HDPE มีน้ำหนักเบาและทนทานต่อการแตกหัก ทำให้ง่ายต่อการจัดเก็บและพกพา
  4. ป้องกันแสง UV: สีทึบของขวด HDPE ช่วยป้องกันแสง UV ซึ่งอาจลดคุณภาพของสารอาหารในผงโปรตีน
  5. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ขวด HDPE สามารถรีไซเคิลได้ จึงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

เราให้บริการ กระปุก HDPE คุณภาพสูงหลากหลายขนาด ที่เหมาะสำหรับการจัดเก็บผงโปรตีนหรือสินค้าอื่น ๆ ที่ต้องการความปลอดภัยและคุณภาพ ติดต่อเราเพื่อเลือกสินค้าที่เหมาะกับคุณที่สุด!

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

ผลกระทบของแสงแดดและรังสี UV ต่อเครื่องสำอางและสารเคมี: ทำไมไม่ควรใช้ขวด PET แบบใส

เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลมีความไวต่อปัจจัยต่างๆ จากสภาพแวดล้อม เช่น แสง ความร้อน และอากาศ หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เสื่อมสภาพและลดประสิทธิภาพ คือการสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ซึ่งสามารถทำให้ส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพภายในผลิตภัณฑ์เสื่อมสภาพและเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ สารบางตัว เช่น วิตามิน (เช่น วิตามิน C) สารต้านอนุมูลอิสระ และสารสกัดจากพืชมีความไวเป็นพิเศษต่อการเสื่อมสภาพเมื่อได้รับแสง

ขวด-PET-แบบใส-ผลกระทบของแสงแดดและรังสี-UV

สารที่ไวต่อแสงแดดและรังสี UV

หลายส่วนผสมในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมีความไวสูงต่อแสงและรังสี UV ต่อไปนี้คือ 5 สารที่พบได้บ่อยที่สุดในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่อาจเสื่อมสภาพเมื่อสัมผัสกับแสง:

  1. วิตามิน C (Ascorbic Acid): วิตามิน C เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ ช่วยลดเลือนริ้วรอยและปรับสีผิวให้กระจ่างใส อย่างไรก็ตาม วิตามิน C เสื่อมสภาพได้ง่ายเมื่อสัมผัสกับแสงแดดและอากาศ ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพลดลงและกลายเป็นสารที่ทำให้เกิดการระคายเคือง
  2. เรตินอล (Retinol): เรตินอลเป็นส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยและฟื้นฟูผิว แต่เมื่อสัมผัสกับแสง UV จะทำให้มันเสื่อมสภาพและลดประสิทธิภาพลง ดังนั้นควรใช้ในเวลากลางคืนหรือบรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ให้แสงเข้า
  3. สารสกัดจากชาเขียว (Green Tea Extract): ชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายจากแสง UV แต่สารสกัดจากชาเขียวจะเสื่อมสภาพเมื่อได้รับแสง UV และอาจสูญเสียคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและปกป้องผิว
  4. น้ำมันหอมระเหยจากส้ม (Citrus Essential Oils): น้ำมันหอมระเหยจากส้ม เช่น น้ำมันจากผลส้มโอและส้ม มีสารที่สามารถทำให้ผิวไวต่อแสงและทำให้เกิดอาการระคายเคืองหรือแผลไหม้จากแสงแดด นอกจากนี้ น้ำมันหอมระเหยเหล่านี้ยังเสื่อมสภาพเมื่อสัมผัสกับแสง
  5. ไนอาซินาไมด์ (Niacinamide): ไนอาซินาไมด์มีคุณสมบัติในการปรับสีผิวและช่วยลดการระคายเคือง แต่ก็เป็นอีกหนึ่งสารที่ไวต่อแสง หากผลิตภัณฑ์ที่มีไนอาซินาไมด์ถูกเก็บในบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ป้องกันแสง UV อย่างเหมาะสม อาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง

ทำไมขวด PET แบบใสถึงทำลายคุณภาพของเครื่องสำอาง

PET (Polyethylene Terephthalate) เป็นพลาสติกที่นิยมใช้ในการบรรจุเครื่องสำอางเนื่องจากความใสซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคเห็นผลิตภัณฑ์ภายในได้ แต่ความใสนี้กลับมีต้นทุน ขวด PET สามารถให้รังสี UV ซึมผ่านได้ง่าย ซึ่งหมายความว่าเมื่อผลิตภัณฑ์ภายในขวดสัมผัสกับแสงแดด รังสี UV สามารถแทรกซึมเข้าไปในวัสดุและทำให้ส่วนผสมที่ไวต่อแสงเสื่อมสภาพ เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งนี้สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสี เนื้อสัมผัส และคุณภาพโดยรวมของผลิตภัณฑ์ ทำให้ประสิทธิภาพลดลงและอาจเป็นอันตราย

ตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีสารรีตินอลหรือวิตามิน C จะเสื่อมสภาพเมื่อสัมผัสกับแสง UV ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ลดลงและไม่สามารถปกป้องหรือฟื้นฟูผิวได้ตามที่คาดหวัง นอกจากนี้ น้ำมันธรรมชาติ กลิ่นหอม และส่วนผสมที่ไวต่อการเกิดออกซิเดชันก็สามารถเกิดการเสื่อมสภาพหรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้

ทำไม HDPE และ PP ถึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในการบรรจุเครื่องสำอาง

BPE158 ขวดพลาสติก 350cc (7)

เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเหล่านี้ ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์จึงหันมาใช้พลาสติกทางเลือกเช่น HDPE (High-Density Polyethylene) และ PP (Polypropylene) ซึ่งมีข้อดีหลายประการเมื่อเทียบกับขวด PET ในการปกป้องคุณภาพของผลิตภัณฑ์ภายใน

  1. การป้องกันรังสี UV: พลาสติก HDPE และ PP ให้การปกป้องที่ดีเยี่ยมจากรังสี UV ทั้งสองชนิดมีลักษณะทึบแสงหรือโปร่งแสง ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้แสงแดดเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ การบล็อกรังสี UV จะช่วยปกป้องส่วนผสมที่ไวต่อแสงและรักษาความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์ให้นานขึ้น
  2. ความทนทานและเสถียรภาพ: HDPE และ PP มีความทนทานและต้านทานการเกิดปฏิกิริยาทางเคมีได้ดี ทำให้เป็นทางเลือกที่มั่นคงในการบรรจุเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันหอมระเหย สารสกัดจากพืช หรือส่วนผสมธรรมชาติที่มีความไวต่อการเกิดออกซิเดชัน วัสดุเหล่านี้ช่วยรักษาคุณภาพและความสมบูรณ์ของผลิตภัณฑ์ตลอดอายุการใช้งาน
  3. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: ทั้ง HDPE และ PP เป็นวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ ทำให้เป็นทางเลือกที่ยั่งยืนมากขึ้นเมื่อเทียบกับ PET ซึ่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและแบรนด์ที่ต้องการลดการทิ้งขยะพลาสติก
  4. คุ้มค่ากว่า: การปกป้องคุณภาพของผลิตภัณฑ์จากการเสื่อมสภาพจะช่วยลดการคืนสินค้า ความไม่พึงพอใจของลูกค้า และสินค้าคงคลังที่เสียหายจากผลิตภัณฑ์ที่เสื่อมสภาพ

เมื่อพูดถึงการบรรจุเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ ขวด PET แบบใส แม้ว่าจะได้รับความนิยมจากความสวยงาม แต่กลับทำลายอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ที่ไวต่อแสงและรังสี UV ในทางกลับกัน การใช้ภาชนะพลาสติก HDPE และ PP มอบการปกป้องจากรังสี UV ได้ดีกว่า ความทนทาน และประโยชน์ทางสิ่งแวดล้อม สำหรับแบรนด์ที่ต้องการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและรักษาประสิทธิภาพ การลงทุนในบรรจุภัณฑ์ที่ป้องกัน UV เป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดและจำเป็น

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

พลาสติก PP ใสพิเศษ

เปรียบเทียบระหว่างพลาสติก PP ธรรมดา และพลาสติก PP ใสพิเศษ

พลาสติก PP ใสพิเศษ (2)

พลาสติก PP (Polypropylene) เป็นวัสดุที่นิยมใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์หลากหลายประเภท เนื่องจากมีความแข็งแรง น้ำหนักเบา และทนต่อสารเคมีได้ดี อย่างไรก็ตาม พลาสติก PP สามารถผลิตได้ทั้งในแบบธรรมดาและแบบใสพิเศษ ซึ่งมีความแตกต่างกันดังนี้:

1. ความใส (Transparency)

  • PP ธรรมดา: มีความขุ่นกว่า มักจะมีลักษณะทึบแสง หรือกึ่งโปร่งแสง ซึ่งทำให้มองเห็นเนื้อหาภายในได้ยากกว่า
  • PP ใสพิเศษ: มีความโปร่งใสมากกว่า มองเห็นเนื้อหาภายในได้ชัดเจน ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการโชว์ความสวยงามของสินค้า เช่น ขวดใส่เครื่องดื่มหรือภาชนะใส่อาหาร

2. การใช้งาน (Usage)

  • PP ธรรมดา: เหมาะสำหรับการใช้งานที่ไม่ต้องการความใสมาก เช่น ฝาขวด กล่องบรรจุภัณฑ์ หรือภาชนะที่ต้องการความทึบเพื่อป้องกันแสงและความชื้น
  • PP ใสพิเศษ: เหมาะสำหรับบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการโชว์ผลิตภัณฑ์ด้านใน เช่น ขวดใส คอนเทนเนอร์ใส่อาหารที่ต้องการความใสสะอาด ช่วยดึงดูดสายตาและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า

3. คุณสมบัติด้านความแข็งแรง (Durability)

  • ทั้ง PP ธรรมดาและ PP ใสพิเศษมีความแข็งแรงและทนทานสูง แต่ PP ใสพิเศษอาจมีความยืดหยุ่นมากกว่าเล็กน้อย ซึ่งช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีความทนทานต่อการแตกหักหรือร้าว

4. ความลื่นมันของพื้นผิว (Surface Finish)

  • PP ธรรมดา: พื้นผิวอาจมีความด้านหรือกึ่งเงา ขึ้นอยู่กับการออกแบบและการผลิต
  • PP ใสพิเศษ: มีความมันและโปร่งใสมากกว่า ทำให้ดูหรูหราและมีความสวยงามมากกว่า เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการภาพลักษณ์พรีเมียม

พลาสติก PP ใสพิเศษเหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความโปร่งใสและความหรูหรา ช่วยดึงดูดความสนใจและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า ในขณะที่ PP ธรรมดาเน้นการใช้งานทั่วไปที่ต้องการความแข็งแรงและทึบแสง เหมาะสำหรับการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการป้องกันแสงหรือเก็บรักษาสินค้าให้คงคุณภาพได้นานขึ้น

การเลือกใช้พลาสติก PP ประเภทใดนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและความต้องการของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาด

พลาสติก PP ใสพิเศษ (1)
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพลาสติก PP ใสพิเศษ

บริษัท เค.วี.เจ. ยูเนี่ยน จำกัด
70 ถนนพระรามที่ 3
แขวงบางคอแหลม
เขตบางคอแหลม
กรุงเทพฯ 10120

T: 02 289 1996
F: 02 292 1223
E: sales@kvjunion.com
LINE: @tul2062b

Add Line

Posted in: ผลิตภัณฑ์และบริการ

Leave a Comment (0) →

บรรจุภัณฑ์อาหาร บรรจุภัณฑ์พลาสติก

บรรจุภัณฑ์พลาสติก: คุณสมบัติและการใช้งานที่หลากหลาย

ในปัจจุบัน บรรจุภัณฑ์พลาสติกมีการใช้งานอย่างกว้างขวางและหลากหลาย ด้วยพลาสติกแต่ละชนิดที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน ทำให้สามารถนำไปใช้งานได้ในรูปแบบต่างๆ โดยสามารถจำแนกพลาสติกตามความหนาแน่นของโมเลกุลและคุณสมบัติพิเศษ ตัวอย่างเช่น พลาสติก PE (Polyethylene) ซึ่งสามารถแบ่งย่อยเป็นหลายประเภท ได้แก่ LLDPE, LDPE, MDPE และ HDPE แต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่สามารถปรับเปลี่ยนและพัฒนาเพิ่มเติมได้ ผ่านกระบวนการผลิตที่แตกต่างกัน เช่น การทำปฏิกิริยาร่วมกับสารเคมีอื่นๆ หรือการใช้กระบวนการผลิตเฉพาะที่ให้ผลลัพธ์ต่างๆ เช่น PP และ OPP

ขวดยา-และ-อาหารเสริม

(1) บรรจุภัณฑ์อาหารโพลิเอทิลีน (Polyethylene – PE)

PE เป็นพลาสติกที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตที่คุ้มค่าและคุณสมบัติละลายต่ำ โดยกระบวนการผลิต PE เกิดจากการทำโพลิเมอไรส์ของก๊าซเอทิลีนภายใต้สภาวะความดันและอุณหภูมิสูง ผลลัพธ์ที่ได้คือ PE ที่มีความหนาแน่นต่างกันออกไป ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่

  • LDPE (Low Density Polyethylene): พลาสติกความหนาแน่นต่ำ ใช้ในบรรจุภัณฑ์ทั่วไป เช่น ฟิล์มหด ฟิล์มยืด ขวดน้ำ ฝาขวด มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการทิ่มทะลุและฉีกขาด ป้องกันความชื้นได้ดี แต่ทนต่อน้ำมันและไขมันได้ไม่ดีนัก
  • MDPE (Medium Density Polyethylene): พลาสติกความหนาแน่นปานกลาง ใช้ในการบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการความทนทาน เช่น ถุงที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
  • HDPE (High Density Polyethylene): พลาสติกความหนาแน่นสูง มีความแข็งแรง เหมาะสำหรับขวดและฟิล์มที่ต้องการการปกป้องจากการซึมผ่านของก๊าซ

กระปุก-PE-1000ml

(2) บรรจุภัณฑ์อาหารโพลิโพรพิลีน (Polypropylene – PP)

PP เป็นพลาสติกที่นิยมใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ประเภทถุงร้อน ด้วยคุณสมบัติที่ใสและทนต่อความชื้น ทำให้เหมาะสำหรับการบรรจุอาหารที่ต้องการเก็บรักษาความร้อนและความชื้น เช่น ถุงร้อนสำหรับอาหารร้อน ซองบรรจุอาหารแห้ง และซองบรรจุคุกกี้และถั่วทอด นอกจากนี้ PP ยังทนทานต่อความร้อน ทำให้สามารถใช้ในการบรรจุอาหารที่ต้องผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนได้อีกด้วย

ขวดซอสฝาแหลม-PP-ทนความร้อน

(3) บรรจุภัณฑ์อาหารโพลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต (Polyethylene Terephthalate – PET)

PET เป็นพลาสติกที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในการบรรจุเครื่องดื่มอัดลม เช่น ขวดน้ำอัดลมและขวดน้ำดื่ม ด้วยคุณสมบัติที่ใสแวววาวและแข็งแรง PET ยังนิยมใช้ในบรรจุภัณฑ์อาหาร เช่น ซองยืดได้สำหรับผลไม้แห้งหรือช็อกโกแลต ซึ่งต้องการความแข็งแรงในการจัดเก็บและความสวยงามในการนำเสนอ

บรรจุภัณฑ์พลาสติกมีความหลากหลายในการใช้งานและคุณสมบัติที่เหมาะสมกับความต้องการที่แตกต่างกัน พลาสติกแต่ละชนิดมีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัวที่ทำให้เหมาะกับการใช้งานในบรรจุภัณฑ์และอาหารในลักษณะต่างๆ ตั้งแต่ถุงร้อนสำหรับอาหารจนถึงขวดสำหรับเครื่องดื่ม

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์อาหาร บรรจุภัณฑ์พลาสติก

บริษัท เค.วี.เจ. ยูเนี่ยน จำกัด
70 ถนนพระรามที่ 3
แขวงบางคอแหลม
เขตบางคอแหลม
กรุงเทพฯ 10120

T: 02 289 1996
F: 02 292 1223
E: sales@kvjunion.com
LINE: @tul2062b

Add Line

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →